โหราศาสตร์ไทย

โหราศาสตร์ไทย

จากการศึกษาประวัติศาสตร์กล่าวได้ว่า ไทยได้รับวัฒนธรรมทางโหราศาสตร์มาจากอินเดียตอนใต้ ประมาณพุทธศักราช 200 ปีเศษ โดยผ่านทางอาณาจักรเขมรที่ชาวอินเดียภาคใต้และพราหมณ์หนีภัยสงครามการขยายแสนยานุภาพของพระเจ้าอโศกมหาราชมาพึ่งพา ประจวบพ้องกับการอพยพย้ายถิ่นของไทยมาจากประเทศจีน ไทยจึงได้รับการศึกษาวิชาโหราศาสตร์พร้อมกับลัทธิทางศาสนาและพิธีการพราหมณ์มาด้วย
พระราชบิดาของโหราศาสตร์ไทย คือ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว



" ตัวเราพระจอมเกล้า บำรุงเหล่าราษฎร์สำราญ
เลี้ยงเสนาข้าราชการ ใช้แบบนี้ดีนักหนา
ตำรานี้ชื่อ ตรีภพ จงปรารภเร่งศึกษา
หญิงชายที่เกิดมา ตามชะตาชั่วและดี
ให้เอาเดือนกับวัน ประสมกันเข้ากับปี
แม้ได้เท่าไรมี จึงประกอบให้ควรทาย
ถ้าเห็นมากกว่าสิบ จงลบสิบเสียให้หาย
เหลือนั้นควรทำนาย ตามตำหรับโบราณมา
ไม่ต้องไปคูณหาร ให้ป่วยการเสียเวลา
ตรีภพ ดังนี้นา นั้นแน่นักประจักษ์จริง "

คำข้างต้นนั้นได้มาจาก ตำราตรีภพหรือที่รู้จักกันในอีกชื่อหนึ่งว่า ตำราเศษพระจอมเกล้า ซึ่งเป็นตำราทางโหราศาสตร์อีกเล่มหนึ่ง ซึ่งถูกจัดสร้างขึ้นมาโดย พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ซึ่งท่านทรงเป็นผู้คิดค้นตำรานี้ขึ้นมาด้วยตัวของพระองค์ท่านเองอีกทั้งท่านยังทรงเป็นกษัตริย์นักโหราศาสตร์ที่มีความเชี่ยวชาญและรู้จริงในศาสตร์แขนงนี้ หรือแม้แต่พระปรีชาสามารถของพระองค์ท่านในทางวิทยาศาสตร์ก็เป็นที่ประจักษ์แก่สายตาชาวโลกมาแล้วในครั้งที่ท่านได้ทรงทำนายการเกิดสุริยุปราคาได้อย่างแม่นยำ ซึ่งต่อไปที่จำนำมาให้ทุกท่านดูนั้นคือทำนายวาสนากำเนิดจาก ตำราตรีภพ ที่ถอดมาจากตำราตรีภพฉบับดั้งเดิมทุกประการ

วิธีการ  ให้ตั้งเลขวันเดือนปีเกิด บวกเข้าด้วยกัน และลบให้เหลือเป็นเศษ สามารถทำได้ง่าย สะดวกในการทดสอบ โดยมีการกำหนดเลข วันเดือนปีของผู้ที่จะทำนาย เป็นดังนี้
วันอาทิตย์ นับเป็น ๑, วันจันทร์ นับเป็น ๒, วันอังคาร นับเป็น ๓ ไปเรื่อยๆ จนถึงวันเสาร์ นับเป็น ๗
นับเดือนอ้าย หรือ เดือน ๑ เป็นเดือนแรก หรือเลข ๑, เดือนยี่ นับเป็น ๒, ไปเรื่อยๆ จนถึงเดือน ๑๒ (ใช้เดือนไทย)
นับปีเกิด ปีชวดเป็นเลข ๑, ปีฉลูเป็นเลข ๒, จนถึงปีกุนเป็นเลข ๑๒
เอาทั้ง ๓ รายการ บวกเข้าด้วยกัน ตัดหลักสิบออก เหลือแต่หลักหน่วย เป็นเศษที่จะเอา มาเทียบกับคำทำนาย
 (ถ้าได้หลักหน่วยเป็น ๐ ให้ถือเป็น ๑๐) ตัวอย่าง
เกิดวันจันทร์ เลข ๒ เดือนแปด (ไทย) เลข ๘
ปีระกา เลข ๑๐ รวมได้ ๒๐ เพราะฉะนั้นเหลือเศษ เป็นเศษ ๑๐
คำทำนาย ตำราตรีภพ หรือ ตำราเศษ พระจอมเกล้าฯ




เศษ ๑ เสาเรือนไหม้ไฟ
ไร้เรือนที่เพื่อนพิง
จะร่อนเร่ระเหระหน
เพราะว่าชะตาเรา ชะตาใครทั้งชายหญิง
ที่พึ่งพัก พำนักเนาว์
เร่งเจียมตนอย่าดูเบา
โทษประกอบจึงเกิดกรรม
เศษ ๒ จะครองไข้
หยูกยาจะหาทำ มีโรคร้ายรึงประจำ
ไม่ถูกแท้จนแก่ตัว
เศษ ๓ ความสบาย
พอสมสกุลตัว มีข้าควายและเกวียนวัว
เท่าที่ทายสถานกลาง
เศษ ๔ มีข้าครอก
อุปถัมภ์ล้วนสำอางค์ อเนกนอกคณานาง
บ่ไข้ชุก บ่ทุกข์เป็น
เศษ ๕ ชะตากลับ
ภายหลังชะตาเป็น ทุนทรัพย์จะแสนเข็ญ
เศรษฐีทรัพย์นับอนันต์
เศษ ๖ จะยกญาติ
เงินตรายศถาพลัน เป็นเชื้อชาติประเสริฐสรรค์
ทุนทรัพย์ลำดับมี
เศษ ๗ นั้นผ้าขาด
แต่พักตราเป็นราศี จะนุ่งห่มก็เต็มที
ระคายคับทั้งทรัพย์สิน
เศษ ๘ นั้นเปรื่องยศ
ทรัพย์ศฤงคารสถานถิ่น จะปรากฏกระเดื่องดิน
ทั้งอำนาจและวาสนา
เศษ ๙ กินข้าวกลางตลาด
ถึงจะมีวาสนา
แม้ตระกูลวณิพก
ดั่งนักเลงสุราบาน เสมอชาติสุนักขา
ต้องประกอบการทำงาน
ถึงต่ำตกก็บ่นาน
พอขวนขวายใส่ท้องตน
เศษ ๑๐ สัณฐานนกแขกเต้า
แสวงดีย่อมมีผล
เหมือนปักษีอันมีปีก
ถ้าประมาทจะเสียการ ทำรวงรังเฝ้าระวังตน
อย่าคลุกเคล้าเหล่าคนพาล  
รู้หลบหลีกธนูพราน
ถึงชอกช้ำระกำกาย

1 ความคิดเห็น: